วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ข่าวต้านรัฐประหาร ฉบับ บก.ลายจุด

VoiceTV: แถลงข่าวต้านรัฐประหาร ฉบับ บก.ลายจุด


by Watsana
ที่มา VoiceTV
1 มิถุนายน 2555 เวลา 22:46 น.

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางสังคม แถลงข่าวต้านรัฐประหาร ผ่านทวิตเตอร์ โดยระบุว่า 
ตลอดทั้งวันของวันนี้ (1 มิ.ย.55) เต็มไปด้วยกระแสข่าวการเตรียมการรัฐประหาร อันสืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร และ ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ในสภา แม้ พันธมิตรจะมีกำลังมวลชนเหลือไม่มาก แต่การประสานเครือข่ายกับ ประชาธิปัตย์ในนามของ สยามสามัคคี เกิดขึ้นได้ แม้จะเดินแยกกันมาระยะหนึ่งแล้ว อย่างน้อยที่สุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวครั้งนี้ประกอบด้วย 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มพันธมิตร และ ประชาธิปัตย์ 
โดย พันธมิตรออกตัวให้ก่อนนอกสภา ส่วน ประชาธิปัตย์เล่มเกมในสภา เหตุการณ์ 2 วันก่อนในสภาของ ประชาธิปัตย์แสดงให้เห็นว่า ทุ่มสุดตัว เกหมดหน้าหนัก ไม่ต้องไว้ฟอร์มหน้าตาของพรรค เพื่อสร้างสถานการณ์ในสภาว่าไม่ใช่คำตอบ
การที่ ส.ส. ชาย 3 คนเดินขึ้นไปบนบันลังก์แล้วฉุดกระชากประมุขฝ่ายนิติบัญญัติให้ลงจากเก้าอี้ เป็นการแสดงถึงการล้มอำนาจในสภา ซึ่งน่าสังเวชใจ การที่ ส.ส. รังสิมา ลากเก้าอี้ประธานสภาไปซ่อน ยิ่งตอกย้ำว่า เขาไม่ยอมให้มีการประชุมสภา ไม่รวมถึงการโยนแฟ้มและบีบคอ ส.ส. จิรายุ ภาพเน่าสนิท
พฤติกรรมของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ใน 2 วันที่ผ่านมา ไม่ต้องสงสัยว่า นี่เป็นความรู้เห็นและเตรียมการของ ประชาธิปัตย์ โดยมีผู้ใหญ่ในพรรคส่งสัญญาณเต็มที่งานนี้ถือว่า คงลงหน้าตักมากสุดคือ ประชาธิปัตย์ เพราะแก้ผ้าเล่นกันไพ่เสี่ยง ยอมแลกกับภาพลักษณ์เจ้าหลักการและยึดมั่นในระบอบรัฐสภาของตนเอง ทิ้งไพ่ เรื่องที่ต้องพิจารณาคือการลงแรงของ ประชาธิปัตย์ รอบนี้ จะเหมือนกับตอน ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งเมื่อปี 49 เพื่อล้มเกมเลือกตั้งหรือไม่
คำถามจึงมีอยู่ว่า ประชาธิปัตย์ ลงทุนสูงขนาดนี้ หวังแค่ล้ม พ.ร.บ. ปรองดอง หรือว่าคิดไกลกว่านั้น หาก ประชาธิปัตย์ และ พันธมิตร คิดจะล้มอะไรบางอย่างที่มากกว่า พ.ร.บ. ปรองดอง พวกเขาจะต้องมีตัวช่วยสำคัญ คือ ทหารรัฐบาล 
มีผู้วิเคราะห์ว่า การรัฐประหารโดยทหารเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ความเป็นไปได้มากสุดคือ การรัฐประหารโดยกฎหมาย วันนี้เราเห็นศาลรัฐธรรมนูญ เคลื่อนแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผิด รัฐธรรมนูญ หรือไม่ และให้เลื่อนการแก้ไขออกไปก่อนการรุกกลับของฝ่ายตรงข้าม เพื่อไทย (ทักษิณ) เกิดขึ้นจากบรรยากาศ 2 ขา ระหว่างเสื้อแดง กับ เพื่อไทยเดินขัดกัน มีการเคลื่อนไหวในระดับผู้บังคับบัญชากองกำลังของท่าน ทั้งประชุมและการทำ Poll เช็คความรู้สึกของ ประชาชน ในกรณีในสภา 
เมื่อบ่ายวันนี้ จตุพร และ นปช.แถลงข่าว ประกาศชัด ทักษิณโดนหักหลัง นปช ชิงแถลงข่าวผ่านเครือข่ายสื่อของเสื้อแดงทั้งหมด ทั้งทีวีจอแดงและวิทยุชุมชน ย้ำให้เตรียมพร้อมระดับสูงสุด
จตุพรบอกว่า มีการเตรียมบ้าน VIP ที่ราบ 11 คาดว่าเหมือนตอนจับพลเอกชาติชาย แต่งานนี้ทหารจะจับนายกหญิงคนแรก เตรียมความพร้อมโดยการสั่งการในทางลับ ให้เตรียมพื้นที่เชียงใหม่สำหรับทำฐานบัญชาการหากเกิดรัฐประหาร (ข่าววงในเพื่อไทย)
การรัฐประหารจะต้องทำในช่วงที่รัฐบาลมีกระแสตกต่ำ แต่ตอนนี้กระแสตกต่ำคือ ฝ่ายค้าน ตกสุดขีด หากเกิดการรัฐประหาร ความยากที่สุดของคนทำคือ การรับมือกับฝ่ายต่อต้าน ที่ไม่ใช่กองกำลัง แต่เป็นมวลชน และต้องตอบคำถามสังคมโลก กรอบระยะเวลาของการรัฐประหาร คือ 3 สัปดาห์ หรือ ในเดือนมิ.ย. นี้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่ว่ากระแสสูง ตอบรับเพียงใด เมื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวต่าง ๆ  โดยรวม ก็ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า โอกาสที่จะเกิดรัฐประหารมีความเป็นไปได้ พอ ๆ กับจะไม่เกิดขึ้น อำมาตย์เดินเกมพลาด 19 กันยายน กำจัดทักษิณแต่สร้างขบวนการเสื้อแดงขึ้นมาจนใหญ่โต ยักษ์หลับเอาใส่ตะเกียงลำบากกว่าทักษิณ
นอกจากนั้น การรัฐประหาร ยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แรงต้านสำคัญตรงนี้คือชนชั้นกลาง หากผลักคนชั้นกลางไปเข้าทางเสื้อแดงจะยิ่งไปกันใหญ่ เศรษฐกิจยึดโยงกับเศรษฐกิจโลก ยิ่งในสภาวะการณ์ที่เศรษฐกิจโลกทดถอย การรัฐประหารยิ่งทำลายตัวเองให้อ่อนแอไปกันใหญ่
การแถลงของ นปช. ในฐานะองค์กรนำ จึงยึดเอาหลักป้องกันสูงสุด ส่งสัญญาณไปในระดับหมู่บ้าน ที่ขณะนี้มีเครือข่ายอย่างกว้างขวางมีความเสี่ยงที่เกี่ยวกับ รัฐประหาร อีกอย่างคือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของฝ่ายทหาร ซึ่งมีกันมาตลอด 5 ปี ในยุคบูรพาพยัคฆ์เรืองอำนาจการขาดเอกภาพในกองทัพระหว่างบูรพาพยัคฆ์และวงศ์เทวัญ กระหึ่มขึ้นในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. 53 เมื่อเศษระเบิดขว้าง M67 ไปอยู่ในร่างทหาร 2 นาย คนที่จ่อคิว ผบ.ทบ. แทนพลเอกประยุทธ ที่มีผลงานเด่นในช่วย เม.ย.- พ.ค. 53 ก็นั่งรออยู่ แต่อายุราชการพลเอกประยุทธยาวเกิน
ปัจจัยเรื่องการรัฐประหารนั้น มีปัจจัยซ้อนกันหลายประเด็น นี่ยังไม่รวมเรื่องจิตนิยมประเภทคำทำนายและการสะเดาะเคราะห์ที่คุยกันหลังไมค์ ต่อไปเป็นการเสนอแนวทางและข้อเสนอต่อสถานการณ์รัฐประหาร คือ เฝ้าระวัง ตื่นตัว สื่อสาร เครือข่าย คิดปฏิบัติการ การเฝ้าระวัง ให้ทำการติดตามการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เช่น จากญาติที่เป็นทหาร หรือ สัญญาณใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง
การตื่นตัว โดยการไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ ให้มีการติตามวิเคราะห์พูดคุยกันอย่างกว้างขวาง 
กรณีหากเกิดการรัฐประหาร จะเกิดผลดีผลเสียอย่างไร การสื่อสารให้ใช้เครือข่ายสื่อสารทุกรูปแบบที่มี หากมีการรัฐประหาร ทำการต่อต้าน ไม่ว่าจะใน Social Network หรือแม้แต่ฝาผนังห้องน้ำ การต่อต้านการรัฐประหารโดยแกนนำทำได้ยาก เพราะถูกไล่ล่า จึงต้องกระบวนการธรรมชาติ จนกว่าจะตั้งหลักได้จึงมีแกนนำการต่อต้านรัฐประหาร ให้ทำทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เป้าหมายคือ การปฏิเสธและก่อกวนอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม การต่อต้านรัฐประหารไม่ควรต้านบนความเสี่ยงด้วยชีวิต ติดคุก ถูกจับ เดี๋ยวก็ปล่อย แต่อย่าไปแลกกับกระสุน ทหารมาให้หลบ แล้วออกมาใหม่เวลาเขาไปพื้นที่การต่อสู้แม้จะกำหนดให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นพื้นที่สัญลักษณ์ แต่ในความเป็นจริง คงยากที่จะเข้าไป ณ จุดนั้น ดังนั้นทุกที่ ๆ พอเป็นไปได้
การต่อต้านรัฐประหาร ต้องเข็มข้นต่อเนื่องให้ได้ใน 2สัปดาห์แรก สื่อทั่วโลกจะจับตาปฏิกริยาของประชาชน ให้แสดงออกทุกวิถีทางทันทีที่การรัฐประหารเกิดขึ้น ให้ทุกคนใช้สัญลักษณ์สีดำ สวมเสื้อดำ ฉีดสเปรย์สีดำตามผนัง เป็นรูปพระอาทิตย์ การต่อต้านรัฐประหารครั้งนี้ ขอให้สายพิราบได้ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุด สายเหยี่ยวไม่ควรยุ่ง ให้เป็นการต่อต้านที่ศิวิไลซ์ที่สุด แพ้ก็ไม่เป็นไร
การปิดประเทศทำไม่ได้..
มีคนบ้าเท่านั้นที่คิด
การเลือกตั้งก็ต้องกลับมาโดยเร็ว
ถึงวันนั้นจงเลือกพรรคที่มีความกล้าหาญในการต่อสู้จริง ๆ
http://thaienews.blogspot.com/search?updated-min=2012-01-01T00:00:00%2B07:00&updated-max=2013-01-01T00:00:00%2B07:00&max-results=50