วันเสาร์, มิถุนายน 02, 2012
พตท.ทักษิณ โฟนอินเวที 3เกลอร้อง "รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก"
ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ระหว่างการจัดงาน "ครึ่งทศวรรษ ความจริงวันนี้"เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 2 มิถุนายน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินสดข้ามประเทศ เวทีรายการ พูดคุยกับกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ท่ามกลางการต้อนรับของ นายวีระกานต์ มุวิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. และผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้
พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินสวัสดี พี่น้องคนเสื้อแดง พร้อมระบุ วันนี้สัญญาณไม่ดี ไม่รู้เป็นอะไร มีแต่เสียง อุตส่าห์แต่งตัวหล่อ จะไปโชว์ ที่เมืองไทยให้พี่น้องเสื้อแดงได้เห็นว่า ยังสบายดีอยู่ หลังจากโดนแล้วโดนอีก
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวกับนายณัฐวุฒิที่บอกว่า อย่าเป็นหมูให้เขาหลอก แต่บางทีก็ต้องร้องเพลง ถึงเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอก... บางทีบางครั้งก็โง่จริงบ้าง โง่ปลอมบ้าง ก็ว่ากันไป พร้อมบอกว่า พยายามลดโทนให้ไม่เครียดเกินไป กำลังฝึกอยู่ ถ้าได้กลับเมืองไทย ไม่ว่าจะได้กลับตอนไหนตอน 85 หรือตอน 63 ก็ไม่รู้ ยังไงก็ต้องกลับ
นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวแบบอารมณ์ดีว่า วันนี้อยากจะใช้คำพูดเบาๆ แบบอารมณ์ดีบ้าง เพราะวันก่อนมีคนท้วงว่า อารมณ์เสียเกินไป และเห็นโน้ส อุดม ออกเดี่ยวมาหลายรอบแล้ว ก็อยากจะออกแฝดบ้าง เป็นโน้สกับแม้ว ก่อนจะเข้าเนื้อหาโฟนอิน ดังนี้
"คนร้ายเวลาทำแผนประทุษกรรมเหมือนๆ กันหมด เวลานี้แผนประทุษกรรมเหมือนกันมากสมัยล้มผม มาตอนนี้เริ่มอาการออกแล้ว แต่วันนั้นต้องอ่านหนังสือแบบเรียนเรื่องเรณูปัญญา ตอนนั้นคนเรายังโง่อยู่ แต่วันนี้ไม่โง่แล้วนะครับ วันนี้รู้แล้วอะไรเป็นอะไร กระบวนการโค่นอำนาจประชาชนเริ่มอีกแล้ว
เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน...ถ้าคนเข้าใจกฎหมาย จะรู้ว่าระเบียบต้องอ่อนกว่ากฎหมาย กฎหมายจะเหนือกว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้เพราะเป็นกฎหมายสูงสุด รองจากกฎหมาย เป็นกฤษฎีกา ซึ่งก็ต้องออกตามกฎหมาย ออกนอกกฎหมายไม่ได้ ระเบียบก็ต้องออกตามกฤษฎีกา หรือกฎหมายนั้นๆ แต่วันนี้เอาระเบียบมาอยู่เหนือกฎหมาย
วันนี้กติการบ้านเมืองไม่เหลือแล้ว คนรักษากฎกติกาขาดคุณธรรมมันถึงได้เป็นอย่างนี้ จะใช้สองมาตรฐาน มันถึงไม่มีทางเลิกแตกแยกกันได้ ตราบใดที่กระบวนการไม่มีคุณธรรมในการรักษากติการับรองเลยว่าความแตกแยกบ้านเมืองจะเลวร้ายมากขึ้น
เราก็คิดว่า ขนาดมีนายกฯ ผู้หญิง (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ไม่ทะเลาะกับใคร ขนาดคนที่มีความเป็นผู้ชายแต่เป็นผู้หญิงมากกว่าชวนทะเลาะ ยังไม่ทะเลาะด้วยก็คิดว่าบ้านเมืองจะสงบสักที แต่ปรากฎว่าไม่สงบ เพราะไม่ถูกใจ ถ้าขืนยังเล่นกันอย่างนี้ กระบวนการโค่นอำนาจ ก็ต้องบอกประชาชนว่าเราจะปล่อยให้โค่นหรือ อำนาจของประชาชนเป็นอำนาจสูงสุด ขอให้ช่วยกันดู สภาฯก็ต้องพิจารณาว่า ตกลงจะยอมรับอำนาจที่ไม่มีอำนาจหรือเปล่า ต้องไปหารือ
พี่น้องความขัดแย้งในบ้านเมืองนึกว่าจะจบทำยังไงดี อุตส่าห์กลืนเลือดคนละหยด สองหยด คนละปี๊บ สองปี๊บ หวังจะมีการปรองดองในเมืองไทย แต่เห็นภาพในสภาฯ กระชากเก้าอี้ เริ่มตั้งรัฐธรรมนูญแล้ว ก็แปรญัตติไม่มีอะไรกลัวทักษิณ กลัวผีทักษิณยังไม่ทันตาย ไม่รู้เป็นอะไร มาถึงกฎหมายปรองดอง ทีนี้ลากเก้าอี้ประธานเลย ไม่รู้พรรคประชาธิปัตย์จะเปลี่ยนชื่อเลย
วันนี้รัฐบาลเพื่อไทยกำลังตั้งใจทำงานไปสร้างความเชื่อมั่นในประเทศต่างประเทศ เต็มที่ เศรษฐกิจเริ่มฟื้น มีการปล่อยข่าวเรื่องปฏิวัติเล่นๆ เผื่อมีความขัดแย้ง วันนี้ เราไว้ใจอะไรไม่ได้เพราะกติกาไม่เป็นกติกา คนรักษากติกา ไม่มีคุณธรรม ไม่รักษากติกา
พรรคเพื่อไทยถือว่า การทำร้ายนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ความจริงแล้วมันส่งผ่านเป็นการทำร้ายประชาชน เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนประชาชน เป็นตัวแทนที่ประชาชนเลือกมา ตามระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเลือกมาด้วยเสียงส่วนใหญ่ แต่เขามาทำอำนาจแทนประชาชน การลงโทษแบบนี้ คือการทำร้ายประชาชน โครงการต่างๆของรัฐบาลกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ประชาชนกำลังกินดีอยู่ดี เงินกำลังสู่ระบบ ทั้งจำนำข้าว รถคันแรก บ้านหลังแรก เครดิตการ์ดเกษตรกร ค่าแรงงาน 300 บาทเริ่มแล้ว ทุกอย่างกำลังดำเนินไป พวกนี้ออกมาเพ่นพ่านอีกแล้ว
เพราะฉะนั้นพี่น้อง เรารักษากฎหมาย เป็นกฎหมาย กติกาต้องเป็นกติกา เกมการเมืองวันนี้ ถ้าเราเล่นเกมในรูปแบบเพราะประชาชนเลือกมา แต่เกมนอกรูปแบบเราไม่มีตัวช่วย เราต้องเล่นเกมที่ถูกต้องตามกติกา ตามหลักสากล เราไม่เล่นมวยวัด เราไม่มีตัวช่วยเรา ทำผิดให้เป็นถูก เราต้องปฏิบัติตามกติกาเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นเราจะเหนื่อย หวังว่า เจ้าหน้าที่รัฐ รัฐมนตรีทั้งหลายต้องทำหน้าที่โดยเคร่งครัด ตามกติกา ไม่มีหย่อน
วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศดับเครื่องชน พูดอยู่คำเดียว 46,000 ล้าน พี่น้องครับ ต้องไปถามพล.ต.จำลอง (ศรีเมือง แกนนำ พันธมิตรฯ) ที่มายืนประท้วงผม วันที่มาเชิญไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พรรคพลังธรรม เมื่อปี 2537 เมื่อ 18 ปีที่แล้ว วันนั้นผมประกาศมีทรัพย์สินอยู่ 46,000 ล้าน ผมมีตังค์ ค้าขายรวยมาก่อน ไม่ใช่เป็นคนที่ไปต้มใครมาก่อน แล้วมาเป็นนักการเมืองมีตังค์ เด็กรุ่นหลังคิดว่ามารวยตอนเข้าการเมือง ผมมาเข้าการเมืองมีแต่เงินหายไป เงิน 46,000 ล้านเป็นเงินที่ไม่ได้ปล้นใครมา แต่เขาปล้นผมไป ต้องการให้เข้าใจว่าเป็นเงินของผม ของครอบครัว ที่ถูกขโมยไป ปล้นไป ผมทำมาหากินมาก่อน
ประชาธิปัตย์ดับเครื่องชน เล่นทั้งในสภา และนอกสภาฯ ตกลงเป็นพรรคที่ถูกต้องตามกฏหมายจริงๆ หรือเปล่า ไม่แน่ใจว่า พรรคที่มีอายุ 60 ปี ทำไมเล่นการเมืองแบบนี้ ในสภาฯ ไม่เคยมีภาพที่น่าเกลียดแบบนี้ในประเทศไทย ก็เพิ่งมามีคราวนี้ กระทำโดยพรรคที่เก่าแก่ที่สุดของไทย และวันนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ไปรอพบอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในพม่า นึกว่า อองซาน ซูจี จะสอนว่าต้องอดทนนะ กว่าจะได้ประชาธิปไตย ไม่ใช่ถึงเวลาเลือกตั้งแล้วได้เสียงข้างน้อยก็ต้องให้ทหารมาช่วย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีมันไม่ถูก
แต่คราวนี้คงไม่ง่ายแล้ว เพราะประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก) จบ จปร. 5 ปี ไม่เหมือนกับอนุพงศ์ (พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ.) จบจปร.แค่ 3 ปี แล้วไปต่อปริญญาตรีที่ ม.รามคำแหง ถึงไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะฉะนั้น ประยุทธ์ ฉลาดกว่า คงไม่ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก
ผมคงจะต้องพูดอีกทีหนึ่ง ได้ข่าวว่า พี่น้องเสื้อแดงบางคนโกรธผม เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ขอประทานโทษ ไหว้อย่างงามๆ เลย ว่า ไม่เคยคิดย่ำยีพี่น้องคนเสื้อแดงเลย วันนั้นสัญญาณไม่ค่อยดี เพราะผมไปอยู่บ้านนอกของประเทศจีน สัญญาณมือถือขาดๆ หายๆ เลยพุดไม่ครบทุกประเด็น จริงๆ อยากจะบอกว่า ผมเป็นคนรู้สำนึกในบุญคุณพี่น้องเสื้อแดง ไม่เคยทอดทิ้ง ไม่เคยลืม วันนี้ก็ส่งคนไปคอยดูแลตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น การเยี่ยมเยียนผู้ต้องขังคดี พยายามจะช่วยทุกคน อาจจะทั่วถึงบ้าง ไม่ทั่วถึงบ้าง ก็ต้องอาศัยแกนนำด้วย ผมสนับสนุน สั่งการช่วยเหลือทุกอย่าง หวังว่าพี่น้องคนเสื้อแดง เราหัวใจเดียวกัน เราไม่ทิ้ง ไม่ลืมกันเด็ดขาด แต่วันนี้ที่พูดถึงปรองดองอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าได้ ไม่ใช่ว่าได้ดิบได้ดีอะไร เราเห็นแล้วว่า พี่น้องติดคุก โดนคดีอยู่ 5 พันกว่าคน ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญบอกว่า คดีอาญาต้องให้ประกันตัว แต่ศาลสุดท้ายก็ไม่ได้ประกัน หลายคนถูกจำคุกทั้งที่ไม่ผิด คดีอากงเป็นตัวอย่าง สิ่งนี้ทำให่พวกเราช้ำกันพอสมควร เราต้องไม่ทะเลาะกันเอง ไม่น้อยใจกันเอง หนักนิดเบาหน่อย ขอให้บอกเลยว่า ผมไม่เคยทอดทิ้ง
พี่น้องครับ ผมได้อ่านบทความของอาจารย์สมศักดิ์ (สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ) ต้องขอบคุณ อ่านแล้ว ยอมรับ หลายสิ่งที่พูดเป็นเรื่องที่จริง บางเรื่องก็พุดไม่ได้ แต่ผมก็ขอบคุณในความห่วงใยและปรารถนาดี วันนี้เราต้องช่วยกันเอาประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศไทยให้ได้ ถึงแม้จะมีนักไม่ใช่ประชาธิปไตยทั้งหลาย หรือบางคนเป็นนักเลือกตั้ง ก็มี วันนี้เราต้องฝ่าตรงนี้ ให้เกิดประชาธิปไตยให้ได้
อองซาน ซูจี ยังพูดเลยว่า การปฏิรูปเข้าสู่ประชาธิปไตยต้องเดินหน้าอย่างเดียว ถอยหลังไม่ได้ แต่ผมกลัวประเทศไทยจะถอยหลังอย่างเดียวหรือเปล่า เป็นบาปกรรมอะไรหรือเปล่า พอพม่าพ้นเราจะเป็นหรือเปล่า ขอให้อย่าเป็นอย่างนั้นเลย ขอให้เห็นใจพี่น้องคนไทยเถอะ เพราะคนไทยเป็นคนที่รักษาเสรีภาพ มีสันติ ประชาธิปไตยเท่านั้นที่รักษากฎกติกา และคนที่รักษากติกา จะทำให้ประเทศเราก้าวหน้าได้ อยากเห็นประชาธิปไตยได้รับการผลักดัน พวกเราเป็นนักสู้ประชาธิปไตย เราจะไม่ถอย แม้จะเจ็บปวดกันบ้าง รับรองว่า เที่ยวนี้ความสามัคคีพวกเราจะเป็นปึกแผ่น เราจะประสานงาน เราจะพูดคุยกัน กำลังตั้งใจว่า กลับบ้าน จะทำอะไรที่ตอบแทนเสื้อแดง ที่เป็นคนน่ารัก เป็นคนรักประชาธิปไตย รักประชาธิปไตย นั่นคิดเรื่องเดียว ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย
ตอนนี้อยากจะพูดอะไรให้พี่น้องสบาย ใจ มีความสดชื่น พร้อมบอกว่ารักและคิดถึงพี่น้องเสื้อแดงทุกคน
ภายหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินจบ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ บอกว่า ฝ่ายตรงข้ามพยายามให้คนเสื้อแดงกับพ.ต.ท.ทักษิณห่างกัน ตนก็เลยอยากประกาศว่า "เขาผลักทักษิณ เราจะกอดทักษิณเอาไว้ เขาจะไล่ทักษิณออกไป เราจะเอาทักษิณกลับมา เขาเกลียดทักษิณ เราก็จะบอกว่าเรารักทักษิณ เขาอาจจะคิดว่าเรารู้ว่าซ่อนอยู่ตรงไหน เราก็บอกว่า เรารู้ว่าไผเป็นไผ" ซึ่งได้รับเสียงเฮและเสียงปรบมือจากคนเสื้อแดงอย่างล้นหลามอย่างมาก
ที่มา:มติชนออนไลน์