วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

อ่านแล้วอ่านอีก


















สัญญาณบอกเหตุ คงพบเหตุอาเภทภัย
โดย ปาแด งา มูกอ
16 มีนาคม 2554


ผมเรื้อมานานกับเหตุการณ์ กทม. 38 ปีที่ผ่านมา จาก 14 ตุลา ที่ได้ให้บทเรียนแก่ชีวิต ทั้งความภาคภูมิใจ,ความเสียสละ และความโง่เขลา ผมและเพื่อนๆของผม ไม่ใช่แกนนำครับ แต่ก็ได้ช่วยชีวิตแกนนำหลายๆคนให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้

ผมไม่เข้าใจ และก็เชื่อแน่ว่าท่านผู้อ่านอีกนับพันนับหมื่นท่าน ก็คงไม่เข้าใจเหมือนเช่นผม ที่หลังจาก 7 แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้รับการประกันตัวออกมา มันเริ่มมีสิ่งบอกเหตุบางอย่างที่ทำให้ผมหวนคิดไปถึงเรื่องราวและเหตุการณ์เมื่อ 38 ปีที่ผ่านมา มันช่างเหมือนกันเหลือเกิน



หรือจงใจให้มันเหมือน

“พลังมวลชน” หรือ “พลังมหาชน” มันคือปรากฏการณ์แห่ง “พลังศักดิ์สิทธิ์” ที่ไม่มีใครจะสามารถหยุดยั้งหรือทำลายลงได้ และเมื่อใดที่ “พลังศักดิ์สิทธิ์” ก่อตัวขึ้นอย่างเต็มที่แล้ว มันจะเกิดปรากฏการณ์พลังแฝงแห่งความชั่วเข้ามาทันทีเช่นกัน

หลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศชาติ ไม่ว่า “เหตุการณ์ 14 ตุลา 16” “6 ตุลา 19” “พฤษภาทมิฬ 35” รวมถึง “เมษาพฤษ 53อำมหิต” ทุกท่านก็ได้เห็นเป็นประจักษ์ (ยกเว้นรุ่นลูกรุ่นหลานของเราเท่านั้นที่ไม่ทันเหตุการณ์ ทั้ง 2 ตุลาฯ) ถึงพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของมวลชน มาแล้ว



และก็ได้เห็นมาแล้วที่ “พลังศักดิ์สิทธิ์” ได้ถูกทำลายลงอย่างราบคาบ

สื่งที่มาทำลาย “พลังศักดิ์สิทธิ์” นั้นมิใช่เกิดจากใครหรือกลุ่มใด แต่มันเกิดขึ้นจากภายในของ “พลังศักดิ์สิทธิ์” เอง ยิ่ง “พลังศักดิ์สิทธิ์” ทรงพลังมากขึ้นแค่ไหน (อย่างเช่น “พลังศักดิ์สิทธิ์” นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ในปัจจุบันนี้) พลังแห่งความชั่วที่แอบแฝงอยู่จะเพิ่มทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถทำลาย “พลังศักดิ์สิทธิ์” ให้ล่มสลายลงไปได้

ในยุค 38 ปีที่ผ่านมา การสื่อสารติดต่อกันมิใช่ของง่าย ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เนท แต่ทำไมเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งใด “พลังศักดิ์สิทธิ์” จะปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นที่น่าอัศจรรย์ โดยไม่ต้องมีแกนนำ ไม่ต้องมีแนวร่วม มีแต่หัวใจ เรื่องนี้เรียนถามท่าน นายแพทย์เหวง และคุณธิดา ดูได้

และให้เรียนถามต่อว่า ในเมื่อไม่มีแกนนำและไม่ต้องมีแนวร่วมแล้ว ทำไม “พลังศักดิ์สิทธิ์” ที่ทรงพลังมากในขณะนั้นหลัง 14 ตุลา 16 มันจึงถูกทำลายลง ในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 หากมิใช่เกิดจาก ตัวของ “พลังศักดิ์สิทธิ์” เองแล้ว ใครหรือกลุ่มใดก็ไม่อาจที่จะทำลายพลังอันนี้ได้

ผมขอเฉลยแทน พลังแห่งความชั่วที่แฝงอยู่ใน “พลังศักดิ์สิทธิ์” ที่สามารถทำลายและทำให้ “พลังศักดิ์สิทธิ์” ล่มสลายลงได้ คือ “กลุ่มกระทิงแดง” และ “กลุ่มนวพล” นั่นเอง

ดังนั้นผมจึงเป็นห่วงและหวั่นวิตกว่า “พลังศักดิ์สิทธิ์ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน” อาจถูกลากไปสู่อดีต ด้วยระบบยุค IT ที่มีทั้งคุณประโยชน์มหาศาลและโทษมหันต์อันตราย ในการที่จะทำลาย “พลังศักดิ์สิทธิ์ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน” ให้ล่มสลายลงได้

โบราณท่านว่า ให้ระวังแมลงวันตอม ????

Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 3/16/2011 11:23:00 ********************************************
















ฝันของผู้ยากไร้ (The Possible Dream)

โดย เพียงคำ ประดับความ
ที่มา เฟซบุ๊ค


ดินแดนใดหนอ แทรกแซงความฝัน
ผู้คนเมืองนั้น ฝันเป็นสีไหน
สีของพระจันทร์ หรือดวงตะวันใด
แล้วผู้ยากไร้ ฝันได้กี่วัน

โอ้ปณิธาน ความฝันอันสูงสุด
จินตนาการถูกฉุด สู่หลักประหาร
หัวอกกลัดหนอง ห้องใจไหวหวั่น
เอ้า! กราบหมอบคลาน หมั่นถอนสายบัว

อาทิตย์ถึงจันทร์ อังคารโศกเศร้า
ฟังนิทานเก่าเก่า เรื่องเล่าเมียผัว
พุธพฤหัส ศุกร์เสาร์เมามัว
ภาพนั้นพันพัว ทั่วทุกเสาไฟ

อยากนอนดูดาว แสงขาวบนราวฟ้า
ฟังนิทานยายตา กลางแสงจันทร์ฉาย
ไม่ต้องไหวหวั่น จันทร์ดวงนั้นของใคร
ไม่ต้องหวั่นไหว ภาพใครเต็มเมือง

อยากนอนมองฟ้า ที่กว้างกว่ากว้าง
โน่นทะเลเวิ้งว้าง กลางเปลวแดดเหลือง
แสงตะวันทาบทา ขอบฟ้ามลังเมลือง
ฤดูกาลเปล่าเปลือง เยื้องย่างผ่านไป

ไม่มีมนุษย์ ที่ไหนหยุดฝัน
เราคนเหมือนกัน ไม่ว่าชนชั้นไหน
ขอปีกแห่งรัก นำทางเราไป
ฝันอันยากไร้ กลางดงดอกไม้บาน

อยากฟังเพลงรัก จิ้งหรีดกับดวงดาว
คนธรรพ์เปลี่ยวเหงา เพลงบทเศร้าขับขาน
วิมานแมนสรวง ล้วนหลอกลวงกัน
เถิดเรามีฝัน สู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง

นิทานชาวนา โรแมนติกกว่าเทพนิยาย
ยินเพลงรักชาวไร่ ปนเหงื่อไคลระเหยแห้ง
รอยยิ้มสาวกรรมกร ผ่อนร้อนกลางลมแล้ง
สวยกลางแดดแรง หอมกลิ่นแป้งไร้ราคา

เถิดเลิกฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ
เลิกท่องบทสวดพร่ำเพรื่อ เลิกเชื่อบุญวาสนา
เลิกนั่งรอคอย ความตายจากฟากฟ้า
สองมือแกร่งตีนกล้า โถมทายท้าปีนเกลียว

หยุดยัดเยียดให้รัก หยุดปักป้ายริมถนน
หยุดกรอกหูประชาชน หยุดปล้นดวงจันทร์เสี้ยว
หยุดโฆษณา ประชาสัมพันธ์ด้านเดียว
ท่ามคืนฟ้าเปลี่ยว เราอยากเห็นดาวเต็มดวง

จงเปิดพื้นที่ ให้แก่เสรีภาพ
ให้วิจารณ์ให้กราบ ให้ซาบซึ้งก้าวล่วง
ให้ตั้งคำถาม บนความจริงทั้งปวง
เลิกลุ่มหลงรักลวง ล้วนบ่วงอันตราย

มหาบุรุษ ย่อมยิ้มรับคำประณาม
หากแปดเปื้อนเลวทราม ย่อมไต่ถามเอาผิดได้
เข้าสู่การตรวจสอบ ชอบธรรมเป็นไป
ฝันของผู้ยากไร้ สำเร็จได้ด้วยเรา

Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 3/16/2011 09:04:00
********************************************




















ยังจำได้ไหม..

โดย เก๋ไก๋ สไลเดอร์
ที่มา เฟซบุ๊ค


เย็นของวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เวลาประมาณ 17.00 น. มีชายแก่ๆคนนึงพร้อมรถโมบายเครื่องเสียงมาจอดหน้าเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร

ในขณะที่แกนนำบางคนของ นปช. ได้พักผ่อนอยู่กับญาติสนิทมิตรสหาย แต่ชายแก่ๆคนนี้ กลับยืดอกออกมาทำหน้าที่เรียกร้องการปล่อยตัวของแกนนำ นปช. และคนเสื้อแดงทั้งหมดที่อยู่ในเรือนจำ ชายแก่ๆ นำมวลชนร่วมห้าพัน มาเป็นกำลังใจให้แกนนำในเรือจำ ชายแก่ๆมาร่วมส่งความสุขจากคนข้างนอกส่งถึงคนข้างในเรือนจำ

ชายคนนั้น คือ อ.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์

ในคำคืนวันนั้น อ.สุรชัย รวมไปถึงทีมปราศรัยจากแดงสยามได้มาเป็นตัวหลักในการร่วมกันส่งกำลังใจและเรียกร้องอิสรภาพให้เพื่อนๆในเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพฯ

ถ้าจำไม่ผิดนอกจากแดงสยามแล้ว ก็มีสหายสีแดง อ.ตุ้ม อ.เล็ก ชาย วันชิโร่ อ๊อด 24 มิถุนา คุณแก้มภรรยาคุณเต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ภรรยาคุณสมชาย ไพบูลย์

ส่วนแกนนำ นปช. เห็นว่าท่าจะมี ดร.ประแสงเพียงท่านเดียวเท่านั้น

มาถึงวันนี้ วันที่แกนนำนปช.ในเรือนจำพิเศษฯได้รับการประกันตัวชั่วคราว แม้กระทั่ง เจ๋ง ดอกจิก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่น 112 อีกคดี ก็ได้รับการประกันตัว

แต่กลับมีอีก 1 แกนนำผู้ซึ่งทำหน้าที่พูดจาปราศรัยกับพีน้องเสื้อแดงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตลอดเวลาที่ไม่มีแกนนำ ตั้งแต่ 19 พ.ค.53 เขาได้ถูกกักขังอิสรภาพอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

อ.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ โดนจับกุมด้วยคดีผิด ม. 112 ตั้งแต่คืนวันที่ 21 ก.พ. 54 จนมาถึงวันนี้ แม้จะมีข่าวว่าทาง นปช.ส่งทนายคารม พลทะกลาง มาช่วยเรื่องคดี




แต่เหตุใดเล่า ยังไม่มีคำพูดใดๆที่ส่งผ่านความห่วงใยจากแกนนำ นปช. ไปถึงท่านอ.สุรชัย
แต่เหตุใดเล่า นปช.ถึงปิดกั้นการรณรงค์ยกเลิกกฏหมาย 112 ซึ่งเป็นคดีที่หลายคนที่(เคย)เป็น นปช.โดนคดีนี้
แต่เหตุใดเล่า นปช.ถึงปิดกั้นไม่ให้เอเชียอัพเดท สื่อเพื่อประชาธิปไตย ออกข่าว อ.สุรชัย



















คัดจากเว็บไซต์ไทยอีนิวส์ http://thaienews.blogspot.com/
เพื่อการเรียนรู้ชีวิต..ขณะยังมีลมหายใจ