วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

เนปาลที่ใฝ่ฝัน นับถอยหลังรอคอย

เนปาลที่ใฝ่ฝัน นับถอยหลังรอคอย (Rerun)
http://www.internetfreedom.us/thread-17407.html
--------------------------------------------------------------------------------

ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ ๒ แห่งอังกฤษ

http://www.vcharkarn.com/varticle/395/2


หน้าที่ 2 - สงครามกลางเมือง และ โอลิเวอร์ ครอมเวลล์

ถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นพงศาวดารจีน เง็กเซียนฮ่องเต้ได้ส่งดาวร้ายดวงหนึ่งลงมาจุติเพื่อให้ล้มล้างฮ่องเต้โดยเฉพาะ ดาวร้ายดวงนั้นเป็นชายชาวบ้านธรรมดาๆ ชื่อ โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ เขานับถือคริสตศาสนานิกายพิวริตัน

พิวริตันเป็นนิกายที่เคร่งครัดเข้มงวดในการใช้ชีวิต หนักข้อกว่านิกายอื่นๆ ไม่นิยมความบันเทิงทางโลกแม้แต่เล็กน้อย เห็นว่าเป็นความฟุ้งเฟ้อไร้แก่นสาร สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบๆสักแต่ว่าใส่พอให้กันหนาว ไม่เอาสวยเอางาม ไม่ชอบแม้แต่การหัวเราะยิ้มแย้มแจ่มใส ต้องวางหน้าเคร่งขรึม ผมเผ้าก็ตัดสั้นง่ายๆให้สะดวก ไม่ต้องให้รับกับหน้า จนเรียกกันว่า "พวกหัวกลม" พวกนี้อดทนและติดดินมาก

ในช่วงที่บ้านเมืองอ่อนแอและแตกแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย สถานการณ์ก็สร้างวีรบุรุษอย่างโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ขึ้นมาจนได้ เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างพระเจ้าชาร์ลส์ฝ่ายหนึ่งและรัฐสภาอีกฝ่ายหนึ่ง ปะทะกันขึ้นขั้นแตกหัก พระเจ้าชาร์ลส์และกำลังพลของขุนนางที่ภักดีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กองทัพรัฐสภานำโดยชาวบ้าน​อย่างครอมเวลล์

พระองค์ถูกตัดสินว่าเป็นผู้ทรยศต่อแผ่นดิน และถูกสำเร็จโทษด้วยการตัดพระเศียร วิธีการประหารก็คือมี "ตะแลงแกง" หรือสถานที่ประหาร เป็นยกพื้นสูงให้คนเห็นกันทั่วๆ นักโทษถูกมัดมือไพล่หลัง คุกเข่า แล้วจับให้ก้มลงเอาคอพาดบนแผ่นไม้ ไม่ให้กระดุกกระดิก

ในตอนไต่สวน พวกลูกขุนพยายามเคี่ยวเข็ญให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑ รับสารภาพผิด อาจจะได้บรรเทาโทษแต่ก็ไม่ทรงยอมท่าเดียว เพราะถ้ายอมสารภาพผิดก็เท่ากับยอมรับว่าทรงเป็นผู้ทรยศต่อแผ่นดิน เพราะฉะนั้นตายก็เป็นตาย

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑ ทรงดำรงขัตติยมานะไว้ได้อย่างสงบเยือกเย็นน่าชมเชยเมื่อเสด็จขึ้นสู่ตะแลงแกง ทรงถามเพชฌฆาตอย่างสงบว่า
"ผมของเราเกะกะขวานของเจ้าหรือเปล่า"
เพราะทรงไว้พระเกศายาว เวลาก้มลงให้ฟัน กลุ่มผมหนาๆที่ปกคลุมคออาจจะทำให้ขวานฟันไม่ขาด เมื่อเพชฌฆาตอยากให้รวบพระเกศาขึ้นไปใต้หมวกให้หมด ก็ทรงรับหมวกแก็ปจากบิชอปที่ตามขึ้นมาทำพิธีทางศาสนาให้เป็นครั้งสุดท้ายมาสวม แล้วรวบพระเกศาเข้าไปเก็บไว้ใต้หมวก ทรงทำสัญญาณด้วยพระหัตถ์ให้เพชฌฆาตลงขวานได้ เพียงครั้งเดียวพระเศียรก็ขาดกระเด็น เพชฌฆาตชูพระเศียรขึ้นให้เห็นโดยทั่วกัน ส่วนพระวรกายถูกนำไปวางลงในโลงศพ คลุมด้วยกำมะหยี่เพื่อจะนำไปฝังต่อไป

การประหารชีวิตของไทยและอังกฤษทำเหมือนกันจนถึงรัชกาลที่ ๕ คือเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มาดู ราวกับมหกรรมดนตรี พอฟันคอขาด ก็เหมือนกันอีกคือผู้หญิงเป็นลมเป็นแล้งกันไป ส่วนของไทยคนที่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อดูให้ถนัด ก็หน้ามืด มือเท้าอ่อน ร่วงลงมาเป็นแถว

พระเจ้าชาร์ลส์มีพระโอรสธิดาหลายองค์ องค์ใหญ่สุดที่มีพระชนม์รอดมาได้จนเป็นหนุ่ม คือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์พระเอกในเรื่องนี้ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales) หรือตำแหน่งรัชทายาทของอังกฤษ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เข้าร่วมรบกับกองทัพพระบิดาตั้งแต่ทรงอยู่ในวัยรุ่น แค่ชันษา ๑๕ ปี ในศึกที่เรียกว่า Battle of Edgehill ทางตะวันตกของประเทศ

แต่เมื่อสงครามกลางเมืองรุนแรงขึ้น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ก็จำต้องลี้ภัยออกนอกประเทศเพื่อความปลอดภัย เมื่อพระชนม์ ๑๖ เท่านั้นเอง ตอนที่พระเจ้าชาร์ลส์ถูกจับและถูกตัดสินประหาร เจ้าฟ้าชายทรงพยายามดิ้นรนทุกทางเพื่อรักษาชีวิตพระบิดาให้รอด ทรงยอมแม้แต่ลงพระนามในสัญญากระดาษเปล่าส่งให้ฝ่ายครอมเวลล์ เป็นการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข คือจะให้ทรงทำอะไรก็ยอมทั้งสิ้น ขอแลกกับชีวิตพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑

ความพยายามทุกอย่างล้มเหลว พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑ ถูกสำเร็จโทษ ระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้างลงนับแต่นั้น ราชอาณาจักรอังกฤษเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ เรียกว่า Commonwealth ส่วนโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ไม่ได้สถาปนาตัวเขาเองเป็นกษัตริย์ก็จริง แต่ตำแหน่ง Lord Protector หรือ ท่านผู้พิทักษ์แผ่นดิน ก็มีอำนาจเด็ดขาดยิ่งกว่าราชาเสียอีก

เมื่อเจ้าฟ้าชาร์ลส์ทรงลี้ภัยออกจากอังกฤษในครั้งแรก พระชนม์แค่ ๑๘ ทรงเร่ร่อนไปหลายเมืองในยุโรปแบบไม่มีอะไรจะทำ ฐานะก็ลำบากยากจน เพราะไม่มีใครอุปถัมภ์เรื่องเงินๆทองๆ รวมทั้งพระเจ้าลุง กษัตริย์ฝรั่งเศส

เวลาว่างของชายหนุ่มวัย ๑๘ ที่ปราดเปรียวอย่างเจ้าชาย จะมีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าเรื่องผู้หญิง ก็เลยทรงได้สาวอังกฤษที่เป็นชาวบ้านหน้าตาสะสวยวัยเดียวกันกับพระองค์ ชื่อ ลูซี วอลเตอร์ มาเป็นพระสนมคนแรก ส่วนที่ว่าพบกันตั้งแต่อยู่ในอังกฤษหรือไปพบกันในยุโรป ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เอาเป็นว่าเมื่อประทับอยู่ที่กรุงเฮก ก็มีพระสนมเรียบร้อยแล้ว

ลูซีให้กำเนิดโอรสนอกกฎหมายคนแรกเมื่อเจ้าฟ้าชายมีพระชนม์ ๑๙ เด็กชายคนนั้น ต่อมาเมื่อพระบิดาได้ครองราชย์ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น ดยุค ออฟมอนมัธ

ชีวิตของเจ้าชายและลูซีเริ่มต้นเหมือนตำนานรักดอกเหมย ประเภทฟันฝ่าฐานันดรรัก จนครองคู่กันได้ แต่ตอนจบกลับตรงกันข้าม ทั้งที่ลูซีก็ดูว่ารักใคร่เจ้าชายของหล่อนเป็นอันดี มีทั้งโอรสและธิดาอยู่เคียงข้างกันไม่ห่าง

ต่อมาหนึ่งปีหลังจากนั้นเจ้าชายมีเหตุที่จำเป็นต้องเดินทางไกล ทรงจำต้องทิ้งพระสนมและลูกน้อยเอาไว้ที่กรุงเฮก ลูซีเป็นข้อพิสูจน์ของ "สามวันจากนารี...เป็นอื่น" เมื่อเจ้าชายไม่อยู่ หล่อนก็หันไปมีกิ๊กเป็นนายทหารคนหนึ่งแทน

เจ้าชายเสด็จกลับมาพบว่าพระสนมมีชู้ไปแล้ว ก็มิได้ลงพระอาญาอย่างใด เพียงแต่เลิกกับหล่อนอย่างเด็ดขาด ชีวิตของลูซีก็เลยตกต่ำลงนับแต่นั้น กลายเป็นโสเภณีและสิ้นชีวิตลงด้วยกามโรคในอีก ๘ ปีต่อมา


หน้าที่ 3 - กษัตริย์ไร้บัลลังก์

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ไม่อาจจะขึ้นเป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๒ แห่งอังกฤษได้โดยอัตโนมัตินับแต่พระบิดาสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้เพราะไม่มีราชบัลลังก์อังกฤษรองรับอยู่อีกแล้ว แต่ก็ไม่เคราะห์ร้ายถึงขนาดเป็นเจ้าไม่มีศาล เพราะว่าสกอตแลนด์ได้ยอมรับนับถือราชวงศ์สจ๊วตมาแต่แรก ถึงไม่ได้ครองอังกฤษ ก็ทรงได้เป็นราชันย์แห่งสกอตแลนด์ และบางส่วนของอังกฤษและไอร์แลนด์ โดยมีพระราชพิธีราชาภิเษกที่เมืองสกูน เมื่อพระชนม์ได้ ๒๑ ปี

ในพระทัย พระราชาหนุ่มยังคงครุ่นคิดถึงราชบัลลังก์อังกฤษอยู่ไม่ขาด ทรงถือว่าโอลิเวอร์ ครอมเวลล์คือโจรปล้นสิทธิ์อันชอบธรรมไปจากพระองค์ สองปีต่อมา ทรงรวบรวมนายทหารและไพร่พลชาวสกอต ตลอดจนกลุ่มขุนนางรอยัลลิสต์ผู้ภักดีต่อกษัตริย์ ยกพลเข้าโจมตีอังกฤษเพื่อจะกำจัดครอมเวลล์ออกไป ศึกครั้งนี้แม้ว่าพวกสกอตรบอย่างทรหด แต่ด้วยความเสียเปรียบด้านกำลังพล และชั้นเชิงการรบอีกหลายๆอย่าง กองทัพของครอมเวลล์ซึ่งเหนือกว่า เป็นฝ่ายบดขยี้ทัพสกอตแตกพ่าย

ขุนนางรอยัลลิสต์เกือบทั้งหมดเอาชีวิตมาทิ้งในสมรภูมิที่วูสเตอร์( Worcester ) อีกส่วนหนึ่งถูกจับกุม และเหลือไม่กี่คนที่รอดไปได้ พระราชาชาร์ลส์ เป็นหนึ่งในผู้รอดตายไปได้ แต่ก็ต้องหลบหนีแทบจะเอาชีวิตไม่รอด อาศัยคนอังกฤษที่จงรักภักดี ทั้งขุนนาง และชาวบ้านสามัญที่ไม่เคยเห็นด้วยกับครอมเวลล์ แต่ไม่มีปากเสียงจะคัดค้าน พวกเขาพากันช่วยเหลือคนละไม้คนละมือ พาพระองค์ซ่อนให้รอดจากเงื้อมมือของทหารฝ่าย ครอมเวลล์ ทั้งที่รู้ว่าโทษของการช่วยเหลือก็คือตายสถานเดียว

พระราชาทรงใช้เวลาถึง ๔๕ วันหลบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ เช่นในห้องใต้หลังคา บนต้นไม้ หลบจากบ้านหนึ่งไปยังบ้านอีกหลังหนึ่ง ลำบากระหกระเหิน กว่าจะข้ามฟากออกจากอังกฤษไปยุโรปได้สำเร็จ อย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว อีกครั้งหนึ่งที่ทรงเร่ร่อนไปตามประเทศต่างๆ ปราศจากผู้สนใจไยดีพระราชาผู้ไร้บัลลังก์

หลังชัยชนะฝ่ายนิยมกษัตริย์ที่วูสเตอร์ ครอมเวลล์ก็ได้ครองอำนาจต่อมาอย่างไร้ผู้ต้านทานได้อีกเป็นเวลานานหลายปี ความเหิมเกริมในอำนาจทำให้เขากลายเป็นผู้เผด็จการ เขาทำสิ่งที่หนักข้อกว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑ ทำหลายเท่า เช่นเมื่อถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคัดค้านเขาก็ยุบสภาเอาดื้อๆ ตั้งสภาใหม่ที่ล้วนแล้วไปด้วยลูกน้องสอพลอประจบประแจง ว่าไงว่าตามกัน

ครอมเวลล์ลักลอบขายพระราชทรัพย์ของหลวงที่เก็บไว้ใน Tower of London นำเงินไปใช้เพื่อบำรุงอำนาจส่วนตัว ถลุงเงินในท้องพระคลังแทบจะเกลี้ยง ทำสงครามกับเนเธอร์แลนด์ ๒ ครั้ง เปลืองเงินทอง ผลักภาระด้านภาษีให้ประชาชนแบก แทบโงหัวไม่ขึ้น ครอมเวลล์ห้ามแม้แต่ความสนุกสนานร่าเริงทั้งหมดในประเทศ ประชาชนถูกห้ามฉลองคริสต์มาส แต่ถูกบังคับให้ถือศีลอด ในวันนั้น

แม้แต่ทหาร เมื่อพ้นประจำเวรยามกลับบ้านก็ต้องกลับมานั่งสวดมนต์ที่บ้าน จะไปเฮฮากันไม่ได้ ชาวบ้านผิวปากร้องเพลงดังๆก็ไม่ได้ ต้องสวดมนตร์แทนบ้านเมืองมีแต่ความตึงเครียด ปีแล้วปีเล่าผู้คนรู้สึกตกต่ำและสิ้นหวัง
-----------------------------------------------
ทางฝ่ายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๒ ช่วงชีวิตนับแต่พ่ายแพ้ศึก เป็นช่วงตกระกำลำบากอย่างยากจะเชื่อว่าเกิดขึ้นได้กับผู้เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ทรงยากไร้สิ้นเนื้อประดาตัว เมื่อบากหน้าไปพึ่งฝรั่งเศส สังฆราชมาซาแร็งอัครมหาเสนาบดีผู้กุมอำนาจตัวจริงแทนพระเจ้าหลุยส์ ที่ ๑๓ ก็รังเกียจเดียดฉันท์ขับไล่ ทรงลี้ภัยไปประเทศอื่นๆในยุโรป ผู้นำก็หวังประจบเอาใจผูกมิตรกับครอมเวลล์เพื่อประโยชน์ทางการค้า จึงพากันขับไล่ไสส่งราชาไร้บัลลังก์ จะทรงหมายปองเจ้าหญิงองค์ไหน พระบิดามารดาก็ทรงรังเกียจไม่ยอมยกลูกสาวให้ราชาที่ไร้เงินทองและตำแหน่ง

เวลาผ่านไปหลายปี เงินทองที่ได้เล็กๆน้อยๆจากพระน้องนาง เจ้าฟ้าหญิงแมรี่ที่เป็นราชินีม่ายแห่งฮอลแลนด์ก็ขาดแคลนลงทุกที เพราะประชาชนชาวดัทช์พากันต่อต้านไม่ยอมให้ส่งเสีย เจ้าชายกับข้าราชบริพารผู้ภักดีไม่กี่คนอยู่ในฐานะยากจนเกือบเท่าขอทาน ของเสวยก็มีแต่กระหล่ำปลีราคาถูก และเนื้อจวนเน่า เอามาต้มกินประทังชีวิต เช่าห้องเช่าเล็กๆโทรมๆ ที่เจ้าของห้องทวงแล้วทวงอีก เป็นหนี้เป็นสินแม้แต่ค่าอาหาร

----------------------------------------------
จาก http://www.internetfreedom.us/thread-17228.html
เพื่อการเรียนรู้ชีวิตเท่านั้น
---------------------------------------------