วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

บันทึกเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพ (ตอน 4)



บันทึกเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพ (ตอน 4) :
4. เวทีราชประสงค์แตก 19 พค.2553
หลังเสธแดงถูกยิง การเดินทางเข้าร่วมชุมนุมเป็นไปอย่างลำบาก ทหารปิดทางเข้าออกทุกด้าน คุณจตุพรขึ้นเวทีปราศัยระดมคนเสื้อแดงให้เดินเท้าเข้าราชประสงค์เพื่อนำเสบียงไปให้ผู้ชุมนุม ค่ำวันที่ 14 หรือ 15 พค.ผมเข้าร่วมชุมนุมอีกครั้ง แต่คราวนี้เข้าไปได้ไกล้ที่สุดแค่ใต้ทางด่วนบ่อนไก่ (สาเหตุเพราะทหารตั้งแนวยิงบริเวณถนนพระราม 4 ระยะห่างระหว่างใต้ทางด่วนถึงแนวยิงของทหารประมาณ 100 เมตร) เย็นนั้นมีคนเสื้อแดงจำนวนมาขนเสบียงมาลงไว้ที่ใต้ทางด่วนจำนวนมาก ปัญหาคือจะนำเสบียงนั้นฝ่าแนวยิงของทหารเข้าไปให้ผู้ชุมนุมได้อย่างไร

ไฟฟ้าและประปาบริเวณนั้นถูกตัดหมด เวลา 19.30 น.มีชาวบ้านนำรถกระบะ 2 คันอาสามาขนเสบียง ผมร่วมกับคนเสื้อแดงขนเสบียงขึ้นรถ เมื่อเช็คดูแล้วปรากฏว่ามีเฉพาะเจ้าของรถเท่านั้นที่ไปโดยลำพัง ผมอาสานั่งรถไปเป็นเพื่อนคันหลัง พบว่าเป็นเจ้าของรถคันที่นำผมมาที่ศาลาแดงวันที่ 13 พค. เมื่อสอบถามเขาบอกว่าทั้งพ่อแม่พี่น้องเขาอยู่ที่เวที เขาต่อสู้ทั้งครอบครัว เขานำรถมาช่วยหลายวันแล้ว เขาบอกว่าจะนำเสบียงไปให้พี่น้องของเขาที่ราชประสงค์

สองทุ่มพวกเราดับไฟหน้าขับรถช้าๆสวนแนวยิงของทหารขึ้นไปถนนพระรามสี่ โดยขับชิดขวาแล้วเลี้ยวเข้าซอยร่วมฤดี มีชาวบ้านจับกลุ่มกันเป็นระยะตรวจรถเข้าออก พวกเราขับเข้าไปช้าๆ เมื่อชาวบ้านทราบว่าเป็นรถขนเสบียงก็ปล่อยให้ผ่านเข้าไปและกระซิบกระซาบบอกว่าเป็นพวกเดียวกัน บางคนขอน้ำแข็ง บางคนขอเสบียง ผมบอกให้แบ่งไปจากหลังรถได้เลย ช่วงที่ขับออกด้านหลังสวนลุมเป็นอีกช่วงที่หวาดเสียว เพราะในแสงจันทร์จะเห็นคนแต่งตัวคล้ายทหาร ใส่หมวกทหาร สะพายปืนห้อยลงต่ำ ยืนกระจายเป็นระยะ แต่พวกเราไม่ทราบเลยว่ากำลังของฝ่ายใด รถขนเสบียงค่อยๆวิ่งเข้าถนนราชดำริและทะลุออกด้านหลังเวทีนำเสบียงไปส่งให้เตนท์เสบียง พวกเราขนเสบียงเช่นนี้กันสามรอบ ตั้งแต่สองทุ่มจนถึงเที่ยงคืน เที่ยวสุดท้ายผมนำเสบียงไปส่งให้กับการ์ดที่ดูแลเสบียงที่เตนท์ซึ่งภายหลังเวทีแตกได้หลบหนีไปอาศัยอยู่กับชาวบ้านที่ราษีไศล คืนนั้นเป็นอีกคืนที่ผมต้องค้างคืนที่หน้าเวที

ถัดจากนั้นอีกหนึ่งวัน ผมได้กลับไปร่วมชุมนุมอีกครั้ง และเหมือนกับวันก่อนที่แท็กซี่ไปส่งได้แค่ใต้ทางด่วนบ่อนไก่ ที่บ่อนไก่เริ่มมีผู้เสียชีวิตหลายราย เมื่อไปยืนร่วมกับผู้ชุมนุมตรงสี่แยกใต้ทางด่วน ผมเห็นกับตาที่คนเสื้อแดงถูกยิงมาจากฝั่งตรงข้าม ชาวบ้านตะโกนบอกกันว่ามีคนยิงมาจากบนตึกที่ห่างออกไป คนแถวนั้นบอกว่าเป็นตึกที่คนเสื้อเหลืองเช่าไว้ มีคนยิงลงมาจากตึกใส่คนเสื้อแดงตายไปหลายคนแล้ว รถพยาบาลวิ่งมารับคนเจ็บแล้วก็ไป บางทีรถพยาบาลมารับไม่ทันคนเสื้อแดงก็ช่วยกันอุ้มใส่รถมอเตอร์ไซด์แล้วนั่งประกบหน้าหลังวิ่งส่งโรงพยาบาล ขณะนั้นเริ่มมีการเผายางกันแล้ว มีใบปลิวที่แจกจ่ายให้กับผู้ชุมนุมเป็นข้อปฏิบัติตัว หนึ่งในนั้นคือคำแนะนำให้นำยางรถยนต์มาเผาเพื่อให้เกิดม่านควัน เจตนาเพื่อป้องกันมิให้พลซุ่มยิง (สไนเปอร์) มองเห็นเป้าหมายได้ถนัด ... สำหรับคนเสื้อแดง การเผายางจึงเป็นหนทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้ถูกซุ่มยิงเท่านั้น ไม่ได้เจตนาจะทำให้บ้านเมืองเสียหายอย่างที่เป็นข่าว

วันนั้นใต้ทางด่วนบ่อนไก่เป็นสมรภูมิที่ค่อนข้างดุเดือด คนเสื้อแดงเริ่มขนยางมาเผาเพื่อสร้างม่านควัน เสียงปืนหรือเสียงระเบิดได้ยินแว่วๆเป็นระยะ ชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก คนเสื้อแดงเริ่มพยายามตอบโต้ วันนั้นผมสะพายเป้ไปด้วย มีคนเสื้อแดงคนหนึ่งมาถามผมว่ามีเศษผ้าไหม ผมตอบว่ามีและถามเขาว่าจะเอาไปทำอะไร เขาบอกว่าจะไปทำระเบิดขวด ผมตอบไปทันทีว่าผมจะช่วย เขาพาผมไปนั่งใต้ทางด่วน เขารวบรวมขวดเครื่องดื่มชูกำลังได้หลายสิบขวด เขาใช้มีดพกเจาะปากขวดเป็นรู และขอให้ผมกรอกน้ำมันก๊าดลงขวดและช่วยตัดผ้าขนหนูเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อทำเป็นชนวน ระหว่างที่นั่งทำระเบิดขวดมีชาวบ้านมามุงดู หลายคนเอาใจช่วย บางคนพยายามถ่ายรูป พวกเราต้องช่วยกันห้ามว่าอย่าถ่าย สักพักเขาก็รวบรวมระเบิดขวดใส่ย่ามแล้วก็หายตัวไปกับฝูงชน

วันถัดมาผมไปร่วมชุมนุมอีกครั้ง คราวนี้แท๊กซี่จอดให้ลงที่คลองเตย ที่คลองเตยมีการตั้งเวทีโดยครูประทีป อึ้งทรงธรรมฮาตะ ผมทำทุกอย่างที่สามารถช่วยได้ ทั้งช่วยยกเสบียงลง และช่วยเขียนป้ายผ้าให้ ข้อความทำนองตำรวจเป็นมิตรกับประชาชน ทหารจะไม่ทำร้ายประชาชน ฯลฯ (กางเกงตัวที่ใส่ไปยังเลอะสี ผมยังเก็บไว้เป็นที่ระลึกจนทุกวันนี้) เวทีที่ตั้งเสร็จมีการตั้งเครื่องเสียง ฉายโปรเจคเตอร์ และมีจุดบริการน้ำดื่ม

คืนวันสุดท้ายก่อนเวทีแตก ผมอยู่บริเวณคลองเตย-บ่อนไก่ เดินสังเกตุการณ์อยู่แถวนั้นจนดึกดื่น ควันไฟจากการเผายางมีให้เห็นโดยทั่วไป เสียงระเบิดเสียงปืนได้ยินมาเป็นระยะ สภาพท้องถนนมืดสนิท ดูแล้วยังจำภาพนั้นได้ติดตา ใครจะคิดว่าเมืองหลวงของประเทศไทยต้องกลายเป็นสมรภูมิเหมือนสงครามกลางเมือง ช่วงดึกได้ยินเสียงปืนนัดหนึ่งจากชุมชนเทพประทานซึ่งเป็นที่ทรัพย์สินฯ ชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อเหลือง มีรถมอเตอร์ไซด์ขับหนีออกมา และมีคนเสื้อแดงตะโกนบอกต่อๆกันว่าให้จับๆๆ ชาวบ้านละแวกนั้นคงจะขัดแย้งกันเรื่องสีเสื้อมากจนแทบจะยกพวกเข้าทำร้ายกัน ดีที่มีการห้ามปรามกันไว้

เช้ามืดวันที่ 19 พค. ภรรยามาปลุกผมจากที่นอนแต่เช้ามืดบอกว่าทีวีออกข่าวทหารเข้าสลายการชุมนุมแล้ว ช่อง 3 ได้เผยแพร่การปฏิบัติการของทหาร มีภาพที่รถถังของทหารเข้ารื้อแนวป้องกันของคนเสื้อแดงตามด่านต่างๆ ผมติดตามข่าวจากหน้าจอทั้งวัน ประมาณเที่ยงวันจอ People Channel ก็ดับ พยามยามเปิดดูจากอินเทอร์เนทก็ไม่เป็นผล ต้องไปดูที่ร้านตัดผมซึ่งมีจานดาวเทียมรับสัญญาณ ได้ทันเห็นคุณจตุพร คุณณัฐวุฒิ คุณวิภูแถลง และแกนนำคนอื่นๆประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณเที่ยงเศษๆ

หลังจากเวทีใหญ่ประกาศยุติการชุมนุมก็เริ่มปฏิกริยาจากคนเสื้อแดงทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ในกรุงเทพเกิดเพลิงไหม้หลายแห่ง ในต่างจังหวัดเริ่มมีการเผาศาลากลาง ภาพเพลิงไหม้ในกรุงเทพโดยเฉพาะที่เซ็นทรัลเวิลด์ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก หลังเหตุการณ์สงบความจริงจึงปรากฏทั้งพยานและหลักฐานว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นคนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เช่นเดียวกับสถานที่ราชการหลายแห่งที่เป็นการจัดฉากขึ้นเพื่อป้ายความผิดให้กับคนเสื้อแดงเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลเผด็จการและกองทัพในการสังหารคนไทยด้วยกัน.!


..ด้วยคารวะ น้ำใจของผู้เขียน..