http://www.internetfreedom.us/user-634.html
เมื่อผม คือ 1 ใน 3 คนที่ถูกการ์ด จับส่ง ตำรวจเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 54
เมื่อผม คือ 1 ใน 3 คนที่ถูกจับส่ง ตำรวจเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 54
ตอนแรกว่าจะไม่เขียน แต่เห็นคนออกมาวิพากษ์วิจารย์กันมากมาย ซึ่งหลายๆคน ก็อาจจะอยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็คงไม่ชัดเจนเท่า คนที่ตกเป็นจำเลย อย่างผม
ผมเพียงต้องสื่อ ให้เห็นถึงความผิดพลาดของคำสั่ง ที่ไม่ชัดเจน ส่งผลให้มีคนที่ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารจำนวน 1500 แผ่นที่เราเตรียมไปแจกกัน ช่างน่าเสียดาย....
ที่มา ของแรงบันดาลใจ คือ
ต้องการสื่อให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับ กฎหมายมาตรา 112 ที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้
น้องเค้ามีไอเดียว่า “ถ้าจะให้ประชาชน สู้อย่างปลอดภัย บนกฎหมายที่ยังมี 112 อยู่ เราควรที่จะติดอาวุธทางปัญญา ให้กับประชาชน เพื่อไม่ให้ ตกเป็นเครื่องมือของใครบางคน หรือเผลอกระทำผิด 112 โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์”
หลังจากนั้นเราก็นัดแนะ และกำหนดเวลาสถานที่ โดยมีความคิดเห็นตรงกัน คือ 12 มี.ค. 54 นี้แหละ คนเยอะดี
11 มี.ค. 54 ตี 5 กว่าๆ ต้นฉบับเสร็จ โดยก่อนหน้านี้ ผมได้มีโอกาสพูดคุยถึงเนื้อหา ที่จะตีพิมพ์ “น้องยืนยัน ไม่เสี่ยง” หลังจากนั้นกระบวนการสำเนาเอกสาร ก็เกิดขึ้นที่แถวๆ ฝั่งถนน จากเงินในกระเป๋า 1200 บาท (รวมกัน 2 คนแล้ว) เหลือเงินติดกระเป๋า ไว้กินข้าวกันนิดหน่อย 200 บาท ในขณะที่ผมกำลังเดินทางจากมีนบุรี น้อง 2 คนก็กำลังดำเนินการถ่ายสำเนา
เรานัดเจอกันตรงท่าพระจันทร์ เพราะตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง น้องทั้ง 2 คน ยังไม่มีข้าวตกถึงท้องเลยสักเม็ด เราทานข้าว ไม่สิต้องแรกว่ายัดข้าว ดีกว่า เพราะเราสวาปามกันคนละ 3 ชุด 3 คน หมดไป 400 กว่าบาท
ประมาณ 13.30 น. เราเดินทางไปถึง 4 แยกคอกวัว กำลังจะแจกเอกสาร ก็มีการ์ดอาสา มาห้าม และขอให้ไปขออนุญาตที่หลังเวทีเสียก่อน เราขอให้การ์ดดูเอกสารเสียก่อนว่ามันหมิ่นเหม่ตรงไหน..การ์ดไม่ดู และแจ้งว่าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ โอเค เราจะไปหลังเวทีกัน
14.00 เราเดินฝ่ามวลชนแบบขยับได้ที่ละคืบไปหลังเวที หน.การ์ด เห็นเพียงหน้าน้องในทีม และดูเอกสารสักครู่ ก็บอกว่าไม่มีอะไร แจกได้..
ทุกอย่างน่าจะจบ แต่...............ขณะที่เรากำลังจะเดินออกหลังเวที ก็มีการ์ดจำนวน 7 คนมาล้อม และแย่งเอกสารไป จากมือผมไปเก็บไว้ (อากับกิริยาการแย่ง ผมไม่ขออธิบาย แต่เหมือนพวกเรา 3 คนเป็นนักโทษยังไงไม่รู้) และมีการขอค้นกระเป๋าถือ กระเป๋าโน้ตบุ้ค ที่สะพายไปด้วย "คุณเป็นใครมาขอค้นกระเป๋า" คือคำถามที่เราอยากทราบ
การโต้เถียงก็เริ่มขึ้น เพราะเราเริ่มงง กันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไหนเมื่อกี้ หน.การ์ด บอกว่าแจกได้ ไงลูกน้องบอกไม่ได้ “ตกลงมึง จะเอายังไงกันว่ะ” (อันหลังคิดในใจ)
ผมถามคนที่มาล็อกตัวเราไว้ว่า “ใครจะเป็นคนตัดสินใจว่าแจกได้ หรือไม่ได้” การ์ดบอกว่านายครับ
ผมถามว่านายของคุณ คือใคร การ์ดบอกว่า.......... (สงวนนาม)
จากนั้นการ์ดทั้งหมด ก็เดินประกบหน้าหลัง พาเราออกไปหลังเวที เข้าซอยข้างๆ ร้านเมธาลัย โดยที่เราก็นึกว่า สงสัยจะพาเราไปหานาย....... (สงวนนาม) เราก็เลยเดินตามไปดีๆ (หากรู้ว่าจะพาไปหาตำรวจ ก็คงไม่ไป คงจะขอเคลียร์กับ หน.การ์ดเสียก่อน)
แน่นอนพอเรื่องถึงตำรวจ ถึงแม้ว่าผมจะประทับใจ ในการสอบสวนของตำรวจ และการบริการ ที่ให้เกียรติอย่างดี เราก็เสียเวลา เสียโอกาสที่ดีๆ เสียความรู้สึก เสียความตั้งใจ เพราะกว่าเรื่องจะจบ ก็ปาเข้าไปถึง 5 ทุ่มกว่า
ถึงแม้ว่าเราจะได้รับการช่วยเหลือจาก ผู้ใหญ่หลายๆคน เช่น ลุงธรรม,คุณพี่จุ่ม,ทนายอานนท์ และทีมงาน,ทีมงานแดงสยาม และเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ผมไม่รู้จักอีกหลายคน มันก็คงไม่สามารถชดเชยความรู้สึกที่เสียไปได้
ปัญหาทั้งหมด จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย หากการ์ดเชื่อฟัง หน. ทีม
ปัญหาทั้งหมด จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย หากไม่มีคนใดคนหนึ่งขึ้นไปประกาศบนเวทีว่า “ใครแจกเอกสาร จับส่งตำรวจเลย” เพราะนั้นคือ การออกใบอนุญาต ให้การ์ดมีความเป็นอิสระจาก หน.ของเค้าเอง แล้วอย่างนี้ คุณจะมี หน.การ์ด ไว้ทำอะไร ไม่ทราบ?...
สิ่งที่น่ากังวลต่อไป คือ อิสระชน ที่เคลื่อนไหวเป็นอิสระจาก น.ป.ช. พวกคุณต้องระวัง การแจกจ่ายทุกอย่าง เพราะตำรวจไม่จับ แต่ระวัง การ์ดจะจับคุณ เพราะเหตุการณ์นี้บ่งบอกว่า ขนาดเป็นคนรู้จักกัน แถมมีการ์ดอีกคนยืนยันว่าคนนี้ผมรู้จัก การ์ดที่ล็อกตัวเราส่งตำรวจ ยังถามเราเลยว่า “เฮ้ยๆๆ เหลืองปลอมตัวมาหรือปล่าวว่ะ” ไอ้คำนี้แหละ ที่ทำให้คนที่มีความตั้งใจ มันโมโห....และเสียความรู้สึกอย่างแรง
สุดท้าย ต้องขอขอบคุณ คุณตำรวจ ที่มีใจเป็นธรรม ไม่บ้าจี้ตามคำสั่งใคร ให้ขังเราเพื่อหาช่องว่างโจมตี สร้างกระแส สร้างเงื่อนไข เพื่อผลอย่างใดอย่างหนึ่ง..
ขอบคุณอาจารย์จาก ธรรมศาสตร์ ทีมทนายอานนท์ คุณลุงธรรม และคุณพี่ ที่นับถืออีกหลายคน ที่เป็นห่วงเป็นใย คอยประสานงานช่วยเหลือ จนจบ..
ถึงแม้จะมีอุปสรรค เราก็จะสู้ต่อครับ..
เสื้อแดงสู้ๆ...เพื่ออนาคตของลูกหลานเรา
ขอบคุณครับ