วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำท่วมเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?

คนไทยจะตายอีกเป็น โขยง แผนเทวดาลงมาโปรด หมอตุลย์คือหมากตัวแรกที่เริ่มเดิน

น้ำท่วมเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?
ตอบได้เลย นั่นคือแผนที่วางไว้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ยังมีต่ออีกหลายตอน

ผมจะลำดับให้อ่านดังนี้ครับ
-หลังสูญเสียความชอบธรรมจากชาวโลกไปแล้วเมื่อครั้งสังหารประชาชนเกือบ100ศพ
-วางแผนกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมา โดยจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
-สำรวจแล้วถ้าเลือกตั้งเมื่อไรแพ้แน่ๆ ทำยังไงก็แพ้
-ปรับแผนใหม่ ปล่อยให้ เสื้อแดงเป็นรัฐบาลก่อน แล้ว ใช้ธรรมชาติที่ตนเองประดิษฐ์มาถล่มล้มประชาชนแทนทหาร แล้ว เอาความดีใส่ตัวเอาความชั่วใส่รัฐบาลพวกเสื้อแดง ปลุกกระแส บิดเบือนใส่ร้าย เอาสื่อหลักเป็นเครื่องมือ เอานักวิชาการมาประณาม แล้วก็ได้ผลในเบื้องต้น
-ทำสัญญาลับกับอดีตนายกฯ จะให้กลับประเทศไทยได้ แต่ เบื้องหลังวางแผนย้อนกลับบัญชาการลงมาให้สมุนตัวเอ้ที่มีอาชีพหมอออกมาปลุกกระแสแล้วขนคนลงมาให้ มีทหารปลอมปะปนเข้ามา คนกทม.ถูกจ้างมาโดยคนของพรรค ปชป.อออกมาประท้วงอย่างรุนแรง
-แดงจริงแดงปลอมปลุกกระแสขึ้นมาต้าน แล้วยัดอาวุธใส่มือ เหมือนว่าแอบถ่ายภาพมาให้ได้เห็นเป็นหลักฐานคล้ายกับคนชุดดำเมื่ออดีต
-แล้วสร้างเรื่องยั่วยุให้ต้องฆ่ากันจริงๆ ถ้าไม่ได้ผล ครั้งนี้เพื่อสร้างเสื้อแดงให้มองว่าเลวร้ายอย่างที่เคยประชาสัมพันธ์เอาไว้ก่อนยิงตายไปเกือบ100ศพ แผนต่อมาก็คือ ใช้ สไนเปอร์ ยิงหัวหมอตุลย์มันซะเลยคล้ายกับเจ๊กลิ้มเคยโดนมาแล้วในอดีต แค่นี้ก็สับสนวุ่นวายแล้ว รัฐบาลก็อยู่ไม่ติดข่าวทั่วโลกก็มุ่งหน้ามา โจมตีรัฐบาลและเสื้อแดงแทน กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการฆ่าหมอตุลย์ พร้อมสื่อในประเทศก็ช่วยกันโจมตีตลอด24ชม.
-และแล้วพระเอกก็ขี่ม้าขาวออกมาห้ามทัพ ประชาชนสองฝั่งสงบศึก ทั่วโลกสรรเสริญ “นี่แหละสุดยอดของโลก” อีกแล้ว อีกครั้ง ถ้าไม่มีพระเอก ประเทศไทยไม่สงบแน่ เหมือนอดีตที่ผ่านมา แล้วย้อนกลับไปแก้ต่างให้ตนเองเมื่อครั้งปี53 เป็นการเข้าใจผิด พระเอกไม่เคยสั่งฆ่าใคร ที่ตายกันไปเรื่องการเมืองทั้งนั้น
-นายกรัฐมนตรีเช็ดน้ำตาแล้วประกาศลาออก ถ้าไม่ออกโดนยึดอำนาจอย่างชอบธรรมทันที
ทั้งนี้..ข้ออ้างไม่ยาก “เป็นนายกฯที่สร้างปัญหาให้กับคนในชาติมากที่สุด” โดยไม่มีคำว่า”ไม่จงรักภักดี”ต่อท้ายในข้ออ้างเหมือนอดีตใส่ในข้ออ้างที่ยึดอำนาจเหมือนเคย


กลับมาที่เรื่องน้ำท่วม มันเกี่ยวโยงยังไงกับแผนเทวดาลงมาโปรดครั้งนี้
ประชาชนยากจนส่วนใหญ่และเป็นคนต่างจังหวัดส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดงทั้งนั้น คนที่ออกมาชุมนุมในกรุงเทพฯเมื่อครั้งปี53 ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯมากที่สุดทั้งนี้ก็เพราะสามารถไปกลับได้ อยู่ไม่ไกลมากนัก
เส้นทางของน้ำและเขื่อนต่างๆ มันอยู่เส้นทางนี้พอดี
ถ้าจะทำให้น้ำท่วมไม่ยากก็แค่ปล่อยน้ำในเขื่อนออกมาเท่านั้น น้ำก็ท่วมหมดแล้ว


แล้วทำไมถึงต้องทำให้น้ำท่วมด้วย
เหตุผลง่าย
1.เพื่อเป็นข้ออ้างได้ทันที เพื่อโจมตีรัฐบาลว่าไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้ประชาชนตายและเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
2.เพื่อจะได้ให้เทวดาออกโรงลงมาโปรด ออกทีวีได้ทุกวัน ล้างสมองประชาชนซ้ำๆ
3.กำจัดคนเสื้อแดงให้อ่อนกำลังลง ยิ่งตายไปเลยก็ยิ่งดีใหญ่ ถ้ามีเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คนเหล่านี้จะอ่อนล้าและไม่สามารถกลับไปช่วยคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯได้อีก
4.สร้างกระแสให้ผู้คนเริ่มเกลียดชังรัฐบาลและเบื่อ เพื่อตัดคะแนนเสียงในอนาคต
5.สร้างภาพทหารเป็นฮีโร่ของประชาชนในช่วงน้ำท่วม ทั้งๆที่เพิ่งผ่านการเข่นฆ่าประชาชนมา เพื่อให้ประชาชนลืมภาพและเหตการณ์นั้น
ส่วนวิธีการว่ากระทำเช่นไร หลายท่านได้นำเรื่องราวทั้งหมดลงมาโพสท์ให้อ่านกันแล้วในหลายที่หลายแห่งซึ่งผมคงไม่ต้องบรรยายเพิ่มเติมอีกครั้ง

เหมือนว่าตอนนี้กำลังเดินมาถึงแผนที่หมอตุลย์ระดมพลแล้ว
มาถึงคนเสื้อแดงบ้าง วางแผนรับมือเรื่องนี้กันแบบไหน
พวกเราชาวเสื้อแดง จะแสดงพลังอย่างไรที่จะไม่เข้าทางของพวกเขา แต่ทั้งหมดทางฝ่ายเราก็คงจะอยู่เฉยไม่ได้อีกเหมือนกัน เรื่องสันติอหิงสาเลิกพูดกันไปเลย เก็บตำราเอาไปเผาให้หมด
และคงจะหนีไม่พ้น การตายของพี่น้องประชาชนอีกเช่นเคย ครั้งนี้ตายหนักกว่าเก่าแน่นอน ตายแล้วยังโดนกล่าวหาว่าเป็นคนเลวเหมือนเก่าอีกหรือไม่ ?


หวังว่ากุนซือคนเสื้อแดงและผู้นำคงจะวางแผนที่ดี รองรับมือในครั้งนี้นะครับในเมื่อกลยุทธ์ครั้งนี้เรามองกันขาดมาตั้งแต่ต้นแล้ว นักพูดทั้งหลายเหมือนว่าเก่งกันทุกคน เหมือนว่ารู้ทุกอย่าง จะทำอย่างไรก็แล้วแต่ ผมขอฝากไว้เรื่องเดียว สิ่งนั้นก็คือ

ในจิตสำนึกที่ว่า “ทุกชีวิตมีค่า” ครับ.

จาก http://www.internetfreedom.us/forum/viewtopic.php?f=2&t=15642

มหากาฬของจริง

ขออนุญาตนำบทความของคุณปูนนกมาเก็บไว้ค่ะ

(1)
เหล่านี้คือคลื่นที่ถล่มโจมตีท่านนายกยิ่งลักษณ์จนซวนเซในเบื้องแรก.. ถึงขั้นที่ ท่านนายกยิ่งลักษณ์ต้องยกเลิกการเดินทางไปร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปคครั้งที่ 19 ในระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย. ที่สหรัฐอเมริกา โดยได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เดินทางไปร่วมประชุมแทน..เพื่อจะได้ช่วยเหลือประชาชน และตั้งรับทางการเมืองให้เต็มที่...


ในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปด้วยการทำงานที่ตั้งใจจริง อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ท่านนายกยิ่งลักษณ์และทีมงานก็เริ่มตั้งหลักได้.. และได้รับความนิยมชื่นชอบ, ความศรัทธาจากประชาชนในแทบทุกพื้นที่ที่ท่านนายกย่างกรายไปโดยไม่ต้องสร้างภาพด้วยใจจริง ข้อกล่าวหา, คำถากถาง, หยามเหยียดได้กลับกลายเป็นหอกแหลมคมที่ย้อนกลับไปทิ่มแทงผู้กล่าวหา และฝ่ายเผด็จการอมาตย์อย่างเจ็บปวดแทบทุกครั้ง ที่ประชาชนได้นำการทำงานที่เห็นตรงหน้าของรัฐบาลท่านนายกยิ่งลักษณ์ ไปเปรียบเทียบกับการทำงานสมัยรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ ทำให้เสียงของคำกล่าวหาเริ่มเบาลง


และในที่สุดไม้เด็ดที่เกิดจากการขยับตัวทางการเมืองของฝ่ายพรรคเพื่อไทยโดยการปล่อยข่าวว่า มีการประชุมลับของ ครม. เรื่องจะทูลเกล้าให้ออก พรฎ. อภัยโทษ (ซึ่งผู้ที่ได้รับผลจาก พรฎ. นี้จะมีท่านนายกทักษิณรวมอยู่ด้วย) ก็ถูกปล่อยออกมา (โดยใครไม่แน่ชัด) แต่ที่แน่ๆ กลายเป็นประเด็นทางการเมืองใหม่ที่ร้อนแรงขึ้นมาทันที.. และร้อนแรงชนิดที่สภาต้องเปิดการประชุมพิเศษเพื่อให้ฝ่ายค้านได้ตั้งกระทู้ถามสดขึ้น.. ความร้อนแรงของประเด็น พรฎ. นี้มีมากจนแทบทุกสังคม แม้แต่ใน Social Network ก็เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอย่างครึกโครม.. นั่นหมายความว่า..

ปูนนก



(2)
เหล่านี้คือคลื่นที่ถล่มโจมตีท่านนายกยิ่งลักษณ์จนซวนเซในเบื้องแรก.. ถึงขั้นที่ ท่านนายกยิ่งลักษณ์ต้องยกเลิกการเดินทางไปร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปคครั้งที่ 19 ในระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย. ที่สหรัฐอเมริกา โดยได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เดินทางไปร่วมประชุมแทน..เพื่อจะได้ช่วยเหลือประชาชน และตั้งรับทางการเมืองให้เต็มที่...


ในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปด้วยการทำงานที่ตั้งใจจริง อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ท่านนายกยิ่งลักษณ์และทีมงานก็เริ่มตั้งหลักได้.. และได้รับความนิยมชื่นชอบ, ความศรัทธาจากประชาชนในแทบทุกพื้นที่ที่ท่านนายกย่างกรายไปโดยไม่ต้องสร้างภาพด้วยใจจริง ข้อกล่าวหา, คำถากถาง, หยามเหยียดได้กลับกลายเป็นหอกแหลมคมที่ย้อนกลับไปทิ่มแทงผู้กล่าวหา และฝ่ายเผด็จการอมาตย์อย่างเจ็บปวดแทบทุกครั้ง ที่ประชาชนได้นำการทำงานที่เห็นตรงหน้าของรัฐบาลท่านนายกยิ่งลักษณ์ ไปเปรียบเทียบกับการทำงานสมัยรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ ทำให้เสียงของคำกล่าวหาเริ่มเบาลง


และในที่สุดไม้เด็ดที่เกิดจากการขยับตัวทางการเมืองของฝ่ายพรรคเพื่อไทยโดยการปล่อยข่าวว่า มีการประชุมลับของ ครม. เรื่องจะทูลเกล้าให้ออก พรฎ. อภัยโทษ (ซึ่งผู้ที่ได้รับผลจาก พรฎ. นี้จะมีท่านนายกทักษิณรวมอยู่ด้วย) ก็ถูกปล่อยออกมา (โดยใครไม่แน่ชัด) แต่ที่แน่ๆ กลายเป็นประเด็นทางการเมืองใหม่ที่ร้อนแรงขึ้นมาทันที.. และร้อนแรงชนิดที่สภาต้องเปิดการประชุมพิเศษเพื่อให้ฝ่ายค้านได้ตั้งกระทู้ถามสดขึ้น.. ความร้อนแรงของประเด็น พรฎ. นี้มีมากจนแทบทุกสังคม แม้แต่ใน Social Network ก็เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอย่างครึกโครม.. นั่นหมายความว่า..

ปูนนก


(3)
1. รัฐบาลสามารถทำให้กระแสการโจมตีท่านนายกยิ่งลักษณ์ ที่ฝ่ายเผด็จการอมาตย์กำลังใช้ความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนมาเป็นเครื่องมือนั้น หยุดลงได้อย่างสิ้นเชิง เพราะหันมาสนใจเรื่อง พรฎ. แทน

2. ท่านนายกยิ่งลักษณ์สามารถใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตน.. ความเป็นสตรี.. ความเป็นคนนิ่งและสุขุมลึกซึ้ง ทำงานช่วยเหลือประชาชนต่อไปได้โดยไม่มีใครมาขวางอีก


3. ท่านนายกยิ่งลักษณ์สามารถดำเนินการทางการเมืองระดับนานาชาติได้ โดยปราศจากพรรคฝ่ายค้านหรือสมุนเผด็จการอมาตย์มาโจมตีได้เลย

4. ท่านรองนายกเฉลิม ได้พูดในสภาอย่างชัดเจนว่า “สิ่งที่รัฐบาลทำได้ทำอยู่ภายใต้กฏหมายโดยไม่ผิดเพี้ยน.. และเรื่อง พรฎ. ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ยังต้องนำไปให้อีก 2 องค์คณะเป็นผู้พิจารณา จึงจะสามารถนำทูลเกล้าได้”.. ซึ่งก็หมายความว่าเรื่อง พรฎ. นี้อาจจะไม่ผ่านก็ได้.. หรืออาจจะมีการแก้ไขอีกก็ได้.. สรุปก็คือ ทุกอย่างยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ณ ปัจจุบัน


5. ฝ่ายเผด็จการอมาตย์หลง เข้าไปเล่นในประเด็น พรฎ. จนกระทั่งเปิดช่องให้ รัฐบาลเป็นฝ่ายได้เปรียบทางการเมืองได้อย่างชนิดที่แก้ตัวไม่ได้เพราะ.. a. รัฐบาลไม่ได้ทำในสิ่งใดที่ผิดกฏหมาย.. b. เรื่อง พรฎ. ก็ยังไม่มีข้อสรุป.. c. ท่านนายกยิ่งลักษณ์ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเพราะไปช่วยประชาชนที่ จ. สิงห์บุรี (ไม่ได้หนีไปมัลดีฟ)

6. รัฐบาลสามารถดำเนินการเรื่องที่สำคัญที่สุดได้โดยไม่มีใครมาให้ความสนใจอีกเลย..(ระดับลิ่วล้ออมาตย์) คือ การค่อยๆ พิจารณาและดำเนินการที่จะออกแถลงการณ์ หรือประกาศยอมรับอำนาจของ ICC (ศาลอาญาระหว่างประเทศ) โดยไม่จำเป็นต้องขอการอนุมัติจากสภาฯ

จากข้อสังเกตทั้ง 6 ประการนั้นสามารถเห็นได้ชัดเจนถ้าสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นสักเล็กน้อย.. โดยเฉพาะข้อที่ 6 ถ้าไม่มีการดำเนินการเรื่องนี้ในทางลับ พอ. สรรเสริญ (ไก่อู) คงไม่ออกมาปัดความรับผิดชอบจากคดีสังหารหมู่ประชาชน 91 ศพ เมื่อปี 2553 ว่า ทำตามคำสั่งของ ศอฉ. อย่างแน่นอน แม้แต่ก่อนหน้านั่น ผบ.ทบ. ก็ออกข่าวยืนยันว่า “ทหารไม่เคยมีมติว่านายกบกพร่องใน 12 เรื่องที่เป็นข่าวออกมานั้น”... เหล่านี้หมายความว่าอะไร

หมายความว่า ทหาร เริ่มออกตัวว่า ถ้าจะมีความรับผิดชอบใดๆ เกิดขึ้นจากกรณีสังหารหมู่ประชาชน 91 ศพ.. ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบก็คือ นายกอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้สั่งการ..

ผมไม่ทราบว่าใครเป็นทีมงานในเรื่องการดูแลการขับเคี่ยวทางการเมืองของท่านนายกยิ่งลักษณ์บ้าง.. แต่เชื่อแน่ว่าไม่ว่าจะเป็นใครคนเหล่านั้น “ไม่ธรรมดา” และไม่ธรรมดาชนิดที่บอกได้ว่า “เป็นมือมหากาฬ” เลยทีเดียว

หลังจากน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติปีหน้านี้แหละครับ..เราจะได้เห็น “ของจริง” ที่ท่านนายกยิ่งลักษณ์ และทีมงานจะนำมาต่อกรกับเผด็จการอมาตย์.. ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นพี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตยทุกท่าน จะได้เห็น

“จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง” ของจริง

ปูนนก